ค้นหาบล็อกนี้

วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2555

เปิดประตูสู่อาเซียน

เปิดประตูสู่อาเซียน


          เที่ยวในเมืองไทยมาจนครบแถบทุกภาคแล้ว เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ที่ไทยเราจะเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2558 เอาเป็นว่าคราวนี้ลองหาข้อมูลท่องเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านสมาชิกอาเซียนกันดูบ้างว่ามีประเทศอะไรกันบ้าง และแต่ละประเทศมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจกันมากน้อยแค่ไหนว่าแล้วก็เลือกประเทศใกล้ๆไทยเราก็แล้วกัน บ้านพี่เมืองน้องไม่ใกล้ไม่ไกล ประเทศลาวนั้นเอง

      ถ้าใครอยู่ใกล้ภาคเหนือหรืออยากสัมผัสบรรยากาศดีๆ ทางภาคเหนือสามารถใช้เส้นทางทางเชียงรายข้ามไปยังฝั่งลาวได้ง่าย 


จุดผ่านแดนจังหวัดเชียงรายมี 2 จุด คือ



1. ด่านอำเภอเชียงแสนฝั่งตรงข้ามคือด่านเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ห่างจากอำเภอเมืองเชียงราย 60 กิโลเมตร ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือหน้าที่ว่าการอำเภอเชียงแสน เป็นจุดเดินทางท่องเที่ยวตามลำน้ำโขงโดยทางเรือไปถึงเชียงรุ้ง สิบสองปันนาจีนตอนใต้ 


  

                                  


2. ด่านอำเภอเชียงของฝั่งตรงข้ามคือด่านเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ห่างจากอำเภอเมืองเชียงราย 114 กิโลเมตร ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือบั๊ค เป็นจุดข้ามไปท่องเที่ยวเมืองห้วยทราย และเดินทางตามลำน้ำโขงโดยทางเรือไปถึงหลวงพระบางและเวียงจันทน์ สปป.ลาว แล้วกลับเข้าประเทศไทยที่จังหวัดหนองคาย (เรือเร็วออก เดินทาง เวลา 09.00-11.30 น. นั่งได้ 5 คน ๆ ละ 1,450 บาท ใช้เวลา 6 ชั่วโมง เรือช้า ออกเดินทาง เวลา 09.00-11.00 น. คนละ 850 บาท ใช้เวลา 2 วัน 1 คืน)


***เอกสารผ่านแดนเข้าประเทศลาวมี ๓ ประเภท คือ ***

1) หนังสือเดินทาง (Passport) ใช้สำหรับประชาชนไทย ลาว และประชาชนประเทศที่สาม ระยะเวลาพำนักไม่เกิน 1 เดือน สามารถเดินทางไปได้ทั่วประเทศ และพำนักอยู่นอกพื้นที่ชายแดนที่กำหนดไว้ในความตกลงได้ 



2) หนังสือผ่านแดน (Border Pass) ใช้เฉพาะประชาชนไทยและลาว ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ชายแดนที่ระบุไว้ในความตกลงเท่านั้น มีอายุ 1 ปี ระยะเวลาพำนักไม่เกิน 3วัน 2 คืน โดยจะต้องอยู่ในพื้นที่ชายแดนที่กำหนดไว้ในความตกลงเท่านั้น และต้องเดินทางกลับออก ณ ช่องทางที่ผ่านเข้ามา




3) หนังสือผ่านแดนชั่วคราว (Temporary Border Pass) ใช้สำหรับประชาชนไทยและลาว ที่มีภูมิลำเนาอยู่นอกพื้นที่ชายแดนที่ระบุไว้ในความตกลงใช้ได้ครั้งเดียว ระยะเวลาพำนักไม่เกิน 3 วัน 2 คืน ใช้หลักปฏิบัติเหมือน (2) 




** ด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงของเปิดเวลา 08.00-18.00 น. ติดต่อกรอกแบบฟอร์มขอผ่านแดนที่ศูนย์อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ในบริเวณที่ว่าการอำเภอเชียงของได้ทุกวัน เตรียมรูปถ่าย 1 นิ้ว 2 รูป และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 1 ชุด พร้อมเงินค่าธรรมเนียม 30 บาท โดยจะเสียค่าเหยียบแผ่นดินที่ฝั่งประเทศลาว 50บาท


***การทำ Visa เข้าประเทศลาว ****
1. กรอกแบบ ฟอร์ม คำขอ Visa 

• ใบสมัครขอวีซ่า ขอได้ที่สถานทูตลาว หรือ Download จาก http://www.bkklaoembassy.coml แล้วติดรูป มาด้วย 1 รูปพร้อมแนบ Passport 
• ติดรูปถ่าย 1 ใบ 


2. นำใบสมัครขอวีซ่า ที่ติดรูปถ่าย พร้อม Passport นำไปยื่นที่สถานทูตลาว


• ทำแบบธรรมดา ค่าธรรมเนียม 300 บาท ต้องยื่นภายในช่วงเช้า หลังยื่นจะได้ใบนัดวันรับ (โดยจะได้ภายใน 2 - 3 วัน ในช่วงบ่าย) 
• ทำแบบด่วน ค่าธรรมเนียม 600 บาท จะได้รับภายใน 2-3 ชม. ยื่นใบสมัครได้ทั้ง ช่วงเช้าและช่วงบ่าย
• การเดินทางโดยทางเรือ เข้าสู่เมืองหลวงพระบาง 
• การเดินทางทางรถโดยสารเข้าสู่เมืองเชียงรุ่ง จีนตอนใต้ 



                          
                                   
เชียงของ-หลวงพระบาง 

การเดินทางสู่เมืองหลวงพระบาง สามารถเดินทางได้ทั้งทางรถและทางเรือ ทว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเลือกไปทางเรือ เพื่อชมภูมิทัศน์และสภาพความเป็นอยู่ของชุมชนต่างๆที่อาศัยอยู่สองฝากฝั่งของแม่น้ำโขง โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าสู่ลาวที่ จุดตรวจคนเข้าเมือง ที่ท่าเรือบั๊ค เชียงของ ประทับตราหนังสือเดินทาง และนั่งเรือข้ามฟาก ค่าโดยสาร 20 บาท 
เรือโดยสาร ห้วยทราย-หลวงพระบาง
อัตราค่าโดยสารเรือช้า (Slow Boat) 850 บาท / คน ใช้เวลาเดินทาง 2 วัน (พักค้างคืนที่ปากแบง) โดยเรือจะออกประมาณ 09.00-10.30 น.
อัตราค่าโดยสารเรือเร็ว (Speed Boat)1,450 บาท / คน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง เรือจะออกประมาณ 09.00 - 11.30น. 

หมายเหตุ : อัตราค่าโดยสารเรือขึ้นอยู่กับการกำหนดของชมรมท่องเที่ยวห้วยทราย
เชียงของ-เชียงรุ่ง
เส้นทาง เชียงของ - ห้วยทราย - เวียงภูคา - หลวงน้ำทา - บ่อเตน --บ่อหาน - เมืองล่า - เชียงรุ่ง
เป็นอีกเส้นทางหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของชนเผ่าต่าง ๆ ตลอดจนธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์ ของลาวเหนือ 
สภาพถนนระหว่าง ในลาวระยะทาง 254 กม. อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง การเดินทางอาจไม่สะดวกในบางช่วง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จเป็นถนนลาดยางตลอดสายภายในปี 2550 ส่วนถนนในจีน จากบ่อหาน ถึง เชียงรุ่ง ลาดยางตลอดสาย


• เชียงของ-ห้วยทราย จากเชียงของ นั่งเรือข้ามฟากจากเชียงของไปยังเมืองห้วยทรายของลาว ค่าเรือข้ามฟาก 20 บาท โดยต้องเตรียมเอกสารผ่านแดนให้เรียบร้อย
• ห้วยทราย - หลวงน้ำทา ต่อรถตุ๊กๆ ไปขึ้นรถสองแถวบริเวณตลาดห้วยทราย รถออกช่วงเช้าเวลาประมาณ 8.30 น. ค่ารถ 250-350 บาท ระยะทาง 198 กม. เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง (พักที่หลวงน้ำทา 1 คืน) 
• หลวงน้ำทา - บ่อเตน ท่ารถสองแถวอยู่บริเวณหน้าตลาดน้ำทา หรือขึ้นรถที่ไปแยกบ้านนาเตย แล้วต่อรถที่บ้านนาเตยไปด่านบ่อเตน ค่ารถประมาณ 60 บาท ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 55 กม. 
• บ่อเตน - บ่อหาน แสตมป์พาสปอร์ตออกที่จุดผ่านแดนบ่อเตน ของลาวและแสตมป์ เข้าจีนที่เมืองบ่อหาน(ระหว่างด่านทั้งสองห่างกัน 2 กม.ต้องนั่วสองแถว) จากนั้นอาจพักที่บ่อหาน 1 คืน 
• บ่อหาน - เชียงรุ่ง มีรถบัสขนาดกลาง วิ่งไปเชียงรุ่งระยะทางราว 230 กม.ทางลาดยางตลอดทางจะถึงเชียงรุ่งช่วงเย็น

      แต่ถ้าใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศการเดินทางไปอีสานข้ามไปยังฝั่งลาวก็มีเส้นทางการท่องเที่ยวแนะนำ มาดูกันเลย
   

ด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1 (เส้นสีแดงในแผนที่ map 1) บ้านจอมมณี ต.มีชัย จ. หนองคาย อยู่ตรงข้ามกับนครหลวงเวียงจันทน์ (เมืองหลวงของประเทศสปป.ลาว)

      สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1 จังหวัด หนองคาย
ด่านสะพานมิตรภาพน้ำเหือง อยู่บ้านนากระเซ็ง ต.อาฮี อ.ท่าลี่ จ. เลย (เส้นสีน้ำเงินในแผนที่ map 1) อยู่ตรงข้ามกับ บ้านเมืองหมอใต้ เมืองแก่นท้าวซึ่งอยู่ทางใต้ของเมืองไซยะบุรีของประเทศสปป.ลาว

แผนที่แสดงการเดินทางโดยรถส่วนตัวเพื่อมาท่องเที่ยวเมืองหลวงพระบาง ประเทศสปป.ลาว
**หมายเหตุ** 
        การเดินทางมาหลวงพระบางโดยใช้เส้นทางนี้ใช้ระยะเวลาในการเดินทางจากสะพานมิตรภาพน้ำเหืองถึงเมืองหลวงพระบางประมาณ 8 ชั่วโมงรวมระยะทาง 365 กิโลเมตร ควรเดินทางเป็นคณะหรือมีรถร่วมเดินทางเพราะสภาพข้างทางเป็นป่าหนาทึบและภูเขา นานๆทีถึงจะเจอหมู่บ้าน หากรถท่านเสียก็สามารถจะช่วยเหลือกันได้ และควรใช้รถแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เนื่องจากทางเป็นถนนลูกรังทั้งหมด บางช่วงมีฝุ่นหนาทึบ ความเร็วที่ใช้ได้ไม่เกิน 30 กม./ชั่วโมง
        งดเดินทางในช่วงหน้าฝนเพราะถึงจะเป็นรถแบบขับเคลื่อน 4 ล้อแล้วเอาโซ่พันไว้รอบล้อก็ยังไปไม่รอด หากเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ ท่านจะต้องเสียค่าล่วงเวลาทำงานให้เจ้าหน้าที่ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองฝั่งลาว เพิ่มอีกคนละ 5,000 กีบ (ประมาณ 20 บาท)

                                
                                

ต่อไปที่สามารถใช้เดินทางก็คือ อุบลตามถนนชยางกูรไป อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอำนาจเจริญ อำเภอเลิงนกทา นิคมคำสร้อย และถึงมุกดาหาร ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง พอถึงขนส่งมุกดาหารก็ต่อรถโดยสารระหว่างประเทศไปเข้าลาวที่เมืองสะหวันได้เลย รถข้ามไปลาวมีทุกชั่วโมงเช้าถึงเย็นราคา 45 บาท  โดยเชื่อมต่อเมืองสำคัญทางยุทธศาสตร์ที่เป็นช่องทางเข้าออกผ่านแดนไทย-ลาว ไว้หมด คือ

         อุบลราชธานี(ข้ามช่องเม็ก ปากเซ)
         มุกดาหาร(ข้ามสะหวันนะเขต)
         นครพนม(ข้ามท่าแขก)
         และท้ายสุดคือ อุดรธานี(ข้ามต่อหนองคายและเวียงจัน)

วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2555

ท่องแดนอีสาน



         



อีสานน่าเที่ยว



สุดยอดขุนเขาแห่งการท่องเที่ยว...ภูกระดึง


        

         เมื่อเอ่ยถึงภูเขา สิ่งที่ไปกันได้ดีก็คือเรื่องของการท่องเที่ยว เพราะบนภูเขามีสิ่งดึงดูดความสนใจให้ขึ้นไปเที่ยวชมมากมาย อย่างพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก ป่าใหญ่ๆ ดอกไม้ป่างามๆ น้ำตกบึ้มๆ หน้าผาและจุดชมวิวสวยๆ ไม่เพียงเท่านั้นอุณหภูมิบนภูเขาทั้งกลางวันกลางคืนก็หนาวเย็น สร้างบรรยากาศโรแมนติก ชวนให้เบียดกายใกล้ชิดสนิดแนบ เหมาะแก่การพาคู่รักหรือเพื่อนร่วมใจไปสนุกสนานเปลี่ยนบรรยากาศ ภูเขาจึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตติดอันดับของผู้คนทั่วโลก

           แนวทิวเขาของอีสานประกอบไปด้วยแนวทิวขาเพชรบูรณ์และแนวทิวเขาดงพญาเย็น ที่เป็นเสมือนสันกั้นพรมแดนระหว่างภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคอีสาน จากที่ราบลุ่มภาคกลางจะขึ้นสู่ที่ราบสูงอีสานก็ต้องทะลุแนวภูเขานี้ขึ้นไปทั้งสิ้น ต่ำลงมาประชิดกับภาคตะวันออกชายฝั่งทะเล คือเทือกเขาสันกำแพง ที่ด้านหนึ่งเป็นจังหวัดปราจีนบุรีและสระแก้ว กับอีกด้านหนึ่งก็คือพื้นที่อำเภอโนนสูง เสิงสาง และครบุรี จังหวัดนครราชสีมา ทิวเขานี้ยังเชื่อมโยงต่อไปถึงพนมดงรัก ซึ่งเป็นแนวกั้นอีสานกับดินแดนกัมพูชาและ สปป. ลาว และทั้งหมดนี้ก็คือ แนวภูเขาที่กั้นอีสานออกเป็นเอกเทศ แทบจะเป็นที่ราบกลมๆ บนที่สูง จากอีสานจะลงมาภาคกลางหรือไปภาคเหนือ อย่างไรเสียก็ต้องเจอภูเขา จะไปตามทางราบๆ ตลอดไม่ได้

          นอกจากนี้ อีสานยังมีแนวเทือกเขาภูพานที่เป็นเส้นตัดขวางแบ่งกั้นให้เกิดเป็นอีสานเหนือ คือจังหวัดอุดรธานี หนองคาย สกลนคร นครพนม และเลย และอีสานใต้ที่มีอยู่อีกมากมายหลายจังหวัด ทั้งหมดเสมือนถูกตัดแยกออกจากกันอย่างเด่าชัดด้วยเทือกเขาภูพานแห่งนี้

          และในบรรดาเทือกภูเขาสูงอีสานหลากหลายนี้ เทือกเขาเพชรบูรณ์ดูจะเป็นเทือกเขาที่มีพื้นที่กว้างขวางที่สุด ก่อให้เกิดภูเขาย่อยๆ ที่มีพื้นที่กว้างขวาง มีความหลากหลายของสรรพชีวิตสวยงามมากมายหลายแห่ง และหากจะกล่าวกันถึงเรื่องท่องเที่ยวแล้ว ก็เชื่อแน่ว่าไม่มีใครปฏิเสธ หากจะยกตำแหน่งสุดยอดภูเขาท่องเที่ยวให้กับภูกระดึง แห่งเทือกเขาเพชรบูรณ์ จังหวัดเลย


          ภูกระดึง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเก่าแก่ที่ไม่เคยเสื่อมคลายมนตร์ขลัง เพราะที่นี่มีทุกๆ อย่างที่นักท่องเที่ยวต้องการ จุดเด่นของภูกระดึงคือความสวยงามของภูเขา สายหมอกหน้าผา พรรณไม้ และสัตว์ป่า กล่าวกันว่า ถ้านักท่องเที่ยวจะเริ่มต้นออกเดินทางท่องธรรมชาติ ภูกระดึงจะเป็นเสมือนโรงเรียนประถมต้นของการท่องเที่ยวภูเขากันเลยที่เดียว



สุดยอดภูผาและผืนป่าอนุรักษ์

          นอกจากภูเขาจะเป็นแหล่งรวมความงดงามน่าท่องเที่ยวแล้ว ยังมีความสำคัญในฐานะเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารอีกด้วย กระบวนการจะเริ่มตั้งแต่น้ำฝนที่ประพรมผืนป่าบนภูเขา ต้นไม้มีหน้าที่เก็บกักน้ำนั้นไว้ แล้วค่อยปล่อยลงสู่ลำน้ำเล็กๆ  ที่ไหลลงมาตามความลาดชันของภูเขา รวมกันเป็นลำน้ำสายใหญ่ ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ กระทั้งไหลลงสู่ที่ราบสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ผู้คนเบื้องล่าง นอกจากบทบาทนี้แล้ว ป่าบนภูเขายังเป็นแหล่งรวมของนานาสรรพชีวิตหลากหลาย ทั้งพืชและสัตว์ รวมถึงนกหายากอีกหลากหลายประเภท ภูเขาจึงเป็นแหล่งที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้เพื่อให้ต้นน้ำลำธานคงความอุดมสมบูรณ์ชุ่มชื้น สัตว์ป่า นก และพืชหายากนานาพรรณมีโอกาสดำรงพันธุ์ของตนสืบไป



          ในอีสานมีผืนป่าอนุรักษ์ด้วยกันมากมายหลายแห่ง อย่างอุทยานแห่งชาติที่เป็นแหล่งมรดกโลกแห่งใหม่ล่าสุดของเมืองไทย คืออุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่กินพื้นที่ไม่เฉพาะเพียงภาคอีสาน แต่ยังแผ่ขยายพื้นที่กว้างขวางมาถึงภาคกลางด้านตะวันออกเขาใหญ่ในด้านหนึ่งเป็นต้นน้ำของแม่น้ำบางปะกงในภาคกลาง และอีกด้านหนึ่งก็เทน้ำไหลลงสู่ลำห้วยต่างๆ ของน้ำมูน น้ำชี นอกจากนั้น อีสานยังมีเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ซึ่งงดงามด้วยพรรณไม้หายากนานาพรรณ ควรค่าแก่การศึกษา รวมทั้งเขตอุทยานแห่งชาติริงโขงที่น่าสนใจอย่างอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ภูวัว แก่งตะนะ และที่อื่นๆ อีกมากมาย

          ในบรรดาภูผาและผืนป่าอนุรักษ์ทั้งหลายของอีสานนั้น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง คือสุดยอดของภูผาและผืนป่าอนุรักษ์



สุดยอดสายน้ำฉ่ำเย็น แม่น้ำโขง ชี มูน

          แม่น้ำโขง  คือสุดยอดแม่น้ำของอีสาน ข้อนี้คงไม่มีใครจะปฏิเสธได้ แม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำนานาชาติที่ไหลเข้าสู่ประเทศไทยครั้งแรกในภาคเหนือที่อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เป็นระยะทางสั้นๆ ก่อนจะออกจากประเทสไทยที่อำเภอเชียงของ จังหวัดเดียวกัน จากนั้นแม่น้ำโขงจึงไหลกลับเข้าสู่ประเทศไทยอีกครั้งในแผ่นดินอีสาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย จากเชียงคาน แม่น้ำโขงก่อให้เกิดหาดทราบ โขดหิน และเกาะแก่งที่สวยงามมากมายหลากหลาย โดยเฉพาะที่อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย มีที่พักและรีสอร์ตมากหลายได้รับการจัดสร้างขึ้นไว้รองรับนักท่องเที่ยวผู้มาชมความสวยงามของแม่น้ำโขงที่นี่



          สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1 เป็นสะพานนานาชาติแห่งแรกที่พาดข้ามไปบนแม่น้ำสายนี้ เชื่อมมิตรภาพสองฝั่งโขง ร้อยใจลาว-ไทยน้องพี่เข้าด้วยกัน จากสะพานมิตรภาพๆ แม่น้ำโขงก็ขยายตัวกว้างใหญ่ ทอดผ่านเมืองสองฟากฝั่งที่ล้วนเป็นเมืองสำคัญของสองประเทส เช่น เมืองบึงกาฬ เมืองบอลิคัน เมืองนครพนม และเมืองท่าแขก จนมาพบกับสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2 จังหวัดมุกดาหาร จากนั้นแม่น้ำโขงก็ไหลต่อลงไปผ่านเมืองเขมราฐ ก่อให้เกิดแก่งหินที่สวยงามขึ้นอีกหลายชุดก่อนจะไปสุดท้ายออกจากประเทสไทยที่อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี

          ระหว่างทางเดินของแม่น้ำโขงได้ก่อให้เกิดสิ่งดีๆ มากหลาย ประชาชนสองฟากฝั่งใช้แม่น้ำโขงเป็นแหล่งอาหาร แหล่งทำมาหากินด้านการเกษตรมากมาย ที่หน้าเมืองนครพนมและเมืองเวียงจันทน์เกิดเป็นหาดทรายกว้างใหญ่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามของทั้งสองประเทศ งานเทศกาลประเพณีที่เกี่ยวข้องกัยการท่องเที่ยว เช่น ประเพณีแข่งเรือ ประเพณีไหลเรือไฟ และปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคเกิดขึ้น ก่อให้เกิดการทางท่องเที่ยวอย่างกว้างขวาง


          แม่น้ำมูน  เป็นแม่น้ำสายกว้างใหญ่และยาวที่สุดในอีสาน เกิดขึ้นจากแนวทิวเขาสันกำแพงบางส่วน และทิวเขาพนมดงรักอีกบางส่วน แม่น้ำมูนไหลลงไปกลายเป็นสาขาหนึ่งของแม่น้ำโขง ตรงจุดที่แม่น้ำมูนไหลลงแม่น้ำโขงเรียกว่าแม่น้ำสองสี เมืองโขงเจียม

          ส่วน แม่น้ำชีต้นกำเนิดคือแนวเทือกเขาเพชรบูรณ์ แล้วไหลผ่านไปยังที่ราบตอนกลางของภาคอีสาน จังหวัดขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ยโสธร แล้วไหลมาลงยังแม่น้ำมูนที่จังหวัดอุบลราชธานี ต่อจากนั้นจึงรวมกันไหลลงแม่น้ำโขงที่ปากมูลอีกต่อหนึ่ง


          



                                    



สุดยอดความงามทุ่งดอกไม้ป่า

          ในบรรพาแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลากหลายประเภทในประเทศไทยนั้น ทุ่งดอกไม้ป่านับเป็นแหล่งท่องเที่ยวประเภทที่เที่ยวได้เที่ยวดี ใครๆ ก็ไปเที่ยวได้ ใครๆ ก็ชอบ แทบไม่มีข้อจำกัด ไม่ว่าจะเป็นอายุ เพศ วัย ความเก่งกล้าสามารถ หรือแม้กระทั่งความรอบรู้ของนักท่องเที่ยว

          ภาคอีสานมีทุ่งดอกไม้ป่าอันงดงามอยู่จำนวนไม่น้อย โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติต่างๆ ที่เป็นที่รู้จักกันดี ได้แก่ ทุ่งกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ ทุ่งดอกไม้ดินที่ป่าสมอปูน อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา-ปราจีนบุรี ทุ่งดอกไม้ดินที่ภูผาเทิบ จังหวัดมุกดาหาร กลุ่มดอกไม้ป่าบนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จังหวัดเลย กลุ่มดอกไม้ป่าบนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว จังหวัดหนองคาย และทุ่งดอกไม้ดินที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จังหวัดอุบนราชธานี เป็นต้น 

          นอกจากทุ่งดอกไม้ที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีนี้แล้ว ยังมีทุ่งดอกไม้ประเภทขึ้นเองตามหัวไร่ปลายนา และทุ่งดอกไม้ปลูกเพื่อเอาน้ำมันอีกบางชนิด ที่ในฤดูกาลก็สวยงามบานสะพรั่งน่าไปเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่งอีกหลายประเภท เช่น ทุ่งดอกหญาบัว ดอกปอเทือง และทุ่งดอกทานตะวัน แถบรอยต่อจังหวัดเพชรบูรณ์และลพบุรี เป็นต้น



                                                              ทุ่งกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ 


                          ทุ่งดอกไม้ดินบนลานหิน อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานี 

     มีความเป็นสุดยอดที่พอๆ กัน เนื่องเพราะบนลานดอกไม้ทั้งสองแห่งนั้น ล้วนมีการจัดการเพื่อการท่องเที่ยวเป็นอย่างดี การเข้าชมเป็นเระเบียบเรียบร้อย ขนาดของทุ่งดอกไม้เป็นพื้นที่กว้างใหญ่ เมื่อถึงฤดูกาลมีดอกไม้จำนวนมากผลิบานแน่นขนัด เที่ยวได้ไม่เบื่อ อยู่ในพื้นที่ที่มีความสะดวกในการเข้าถึงได้เป็นอย่างดี มีที่พักทั้งของภาครัฐและเอกชนบริการพร้อมพรั่ง อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ รอรองรับนักท่องเที่ยวให้สามารถไปต่อยอดในที่อื่นๆ ได้อีก



    








สุดยอดอีสานก่อนประวัติศาสตร์

          เหตุการณ์สนุกๆ อย่างเช่น การต่อสู้กันของไดโนเสาร์ที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งแบ่งออกเป็นยุคต่างๆ มีชื่อภาษาอังกฤษเรียกยากๆ นั้น เป็นเหตุการณ์ที่นำมาจำลองและจัดแสดงสาธิต เป็นการให้ความรู้ความบันเทิง และได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากมายจนกลายเป็นจุดเด่นหนึ่งของการท่องเที่ยวอีสานไปแล้ว

          ประวัติศาสตร์ของอีสานเริ่มขึ้นตั้งแต่ยุกก่อนประวัติศาสตร์ มีการค้นพบซากกระดูกของไดโนเสาร์หลากพันธุ์หลายตระกูล ทั้งชนิดเนื้อและกินพืช โดยเฉพาะในเขตภาคอีสานตอนกลาง อันเป็นพื้นที่แถบเทืองเขาภูพาน จังหวัดกาฬสินธุ์ สกลนคร ขอนแก่น นอกจากซากไดโนเสาร์ ยังมีการค้นพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณที่บ้านเชียง จังหวัดอุดรธานี ภาพเขียนสีที่ผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานี เป็นต้น


          จากยุคก่อนประวัติศาสตร์ก็คลี่คลายมาสู่ยุคแห่งตำนาน เรื่องราวของเมืองโบราณต่างๆ ที่ถูกทับซ้อนอยู่ด้วยเมืองสมัยใหม่ นิทานในประวัติศาสตร์อย่างอุสา-บารสท้าวปาจิตต์กับนางอรพิมพ์ และสังข์ศิลป์ไชย ล้วนแสดงให้เห็นถึงความเป็นบ้านเป็นเมืองในยุคก่อนของอีสาน ก่อนจะถึงช่วงแห่งการเผยแพร่เข้ามาของอารยธรรมขอม และมาสุดปลายทางที่การทิ้งร้างบ้านเมืองต่างๆ ออกไปด้วยเหตุผลที่ยังคงลี้ลับ ก่อนที่กลุ่มชนไทยลาวจะอพยพโยกย้ายกันข้ามแม่น้ำโขงเข้ามาอยู่อาศัยในแผ่นดินที่เคยเจริญรุ่งเรืองอยู่ก่อนหน้าแล้ว และพลิกฟื้นผืนแผ่นดินอีสานให้กลับเจริญรุ่งเรืองขึ้นอีกครั้ง


          ความเป็นดินแดนแห่งไดโนเสาร์นับว่าเป็นจุดเด่นที่สำคัญของการท่องเที่ยวอีสานทำให้เกิดพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ขึ้นมากมายหลายแห่ง แต่ละแห่งมีการจัดแสดงที่ทันสมัยสวยงาม ถ้าจะเทียบกับการค้นพบภาพวาดที่ผาแต้ม หรือลวดลายหม้อไหบ้านเชียงนับว่ามีจุดเด่นกันคนละด้าน แต่กับนักท่องเที่ยวชาวไทย ยังนับว่าไดโนเสาร์ได้เปรียบกว่า 

                                   


 สุดยอดอลังการแห่งปราสาทหิน

          เขมรกับไทยมีความสัมพันธ์กันมาช้านาน มีเรื่องเล่าว่า ถ้าไม่มีเขมร คนไทยก็จะหายใจไม่ได้และเดินไปไหนไม่ถูก เพราะคำว่าจมูกและคำว่าเดินมาจากภาษาเขมร ดังนั้น การมีปราสาทหินอารยธรรมขอมมากมายในดินแดนไทยจึงนับเป็นเรื่องปรกติ ไม่มีอะไรแปลกประหลาด

          ปราสาทหินนับเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในอีสาน และมีจำนวนมากมาย ตั้งแต่ใต้สุดของจังหวัดอุบลราชธานี ไปจนถึงเหนือสุดที่พระธาตุนารายณ์เจงเวง จังหวัดสกลนคร ในบรรดาปราสาทหินอารยธรรมขอมจำนวนมากมายเหล่านี้ อาจจำแนกออกได้เป็นสิ่งก่อสร้าง 1 ประเภทใหญ่ๆ ด้วยกัน คือ ศาสนสถาน ธรรมศาลาหรือบ้านมีไฟที่สร้างไว้เพื่อเป็นที่พำนักของคนเดินทาง และอโรคยศาลาหรือโรงพยาบาล ที่มีแพทย์คือ พราหมณ์ผู้ประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ เป็นหมอ

          ปราสาทหินอันเป็นที่รู้จักในภาคอีสานและเป็นสุดยอดในด้านต่างๆ ตัวอย่างเช่น 



             ปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทหินทรายสีชมพูบนปากปล่องภูเขาไฟแห่งเมืองบุรีรัมย์ 


        ปราสาทหินพิมาย ปราสาทที่เป็นดังตันแบบแห่งปราสาทหลายแห่งในเมืองเสียมเรียบ 


                                   ปราสาทตาเมือน ที่มีทั้งอโรคยศาลาและธรรมศาลาครบครัน 



                                                                   ปราสาทหินพนมวัน 


            


              ปราสาทสระกำแพงใหญ่ ปราสาทสระกำแพงน้อย และปราสาทศรีขรภูมิ เป็นต้น
                                      
      
                                         
  


                                  พระธาตุพนม จังหวัดนครพนม
 
สุดยอดพระบรมธาตุงวดงามดังนิรมิต

          ไม่ว่าขอมจะเป็นเขมรหรือไม่ แต่ศาสนสถานของขอมก็สร้างขึ้นด้วยหิน ส่วนไทยและลาวเราสร้างวัดและเจดีย์ด้วยอิฐและปูน ดังนั้น ในอีสานนอกจากจะมีโบราณสถานกลุ่มปราสาทหิน อันแสดงให้เห็นถึงอารยธรรมขอมที่แผ่กว้างไปทั่วแล้ว อีสานก็ยังมีอารยธรรมไทยลาวที่แผ่ขยายออกไปจนเต็มที่เช่นเดียวกัน วัดและส่วนประกอบสำคัญของวัด คือเจดีย์ ที่ถูกเรียกเป็นภาษาอีสานว่าธาตุ มีมากมายหลายแห่งในอีสานโดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเจริญรุ่งเรืองเก่าแก่มาแต่โบราณกาล

          พระธาตุสำคัญของอีสานอันเป็นที่รู้จัก ได้แก่ พระธาตุเชิงชุม จังหวัดสกลนคร พระธาตุพนม จังหวัดนครพนม พระธาตุก่องข้าวน้อย จังหวัดยโสธร พระธาตุบังพวน จังหวัดหนองคาย พระธาตุศรีสองรัก จังหวัดเลย และพระธาตุยาคู จังหวัดมหาสารคาม เป็นต้น 

          ในจำนวนพระธาตุทั้งหลายแห่งนี้ ที่ถึงพร้อมด้วยความสวยงามของศิลปะอีสาน มีความใหญ่โตมโหฬารทรงคุณค่า อีกทั้งมีความสำคัยยิ่งทางจิตวิญญาณแล้ว ก็คงไม่มีธาตุแห่งไหนเกินองค์พระธาตุพนม ซึ่งไม่เพียงแต่พระธาตุพนมจะได้รับการเคารพนบนอบโดยคนไทยอีสานเราฝั่งนี้เท่านั้น แม้ในคราวงานนมัสการพระธาตุในทุกวันแรม 1 ค่ำ เดือน 3 ชาวลาวจากอีกฟากฝั่งโขงก็ยังต่างพากันข้ามประเทศมาร่วมงานนมัสการองค์พระธาตุพนมนี้กันอย่างครึกครื้น


                                              


สุดยอดชาวเผ่าอีสาน สีสันของผู้คนและวัฒนธรรมประเพณี

          คนอีสานนอกจากจะมีชาวอีสานลาว ซึ่งเป็นกลุ่มชนกลุ่มใหญ่ที่สุด เป็นเจ้าของวัฒนธรรมประเพณีซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของภูมิภาคแล้ว อีสานก็ยังมีกลุ่มชนต่างๆ อีกหลากหลายกลุ่มด้วยกัน เช่น กลุ่มชาวผู้ไทยหรือไทยดำ กลุ่มชาวอีสานเขมร กลุ่มชาวส่วย กลุ่มชาวมอญเขมรโบราณ เช่น ชาวบนหรือญักุร ชาวข่าหรือขมุ กลุ่มชาวไทยย้อ กลุ่มชาวไทยกระโส้ ตลอดจนกลุ่มชาวไทยโคราช เป็นต้น

          กลุ่มชาวไทยต่างๆ เหล่านี้แหละ ที่เป็นสีสันและเป็นเจ้าของกิจกรรมทางวัฒนธรรมประเพณีในแง่มุมต่าง ๆ  ทั้งงานศิลปหัตถกรรม อาหาร ภาษา บทเพลง บทกวีต่างๆ อีกมากมายหลากหลาย ในแต่ละชาวเผ่าต่างก็มีรูปแบบที่เป็นตัวของตัวเองโดยเฉพาะ และใช้รูปแบบกลางๆ ที่เป็นของภูมิภาคอีสานร่วมกัน ตัวอย่างเช่น ในแทบทุกชนเผ่าในภาคอีสานต่างก็มีประเพณีบายศรีสู่ขวัญเป็นประเพณีร่วมกัน แต่รายละเอียดในพิธีกรรมจะแตกต่างกันไปในแต่ละชนเผ่า ตัวอย่างเช่น การต้อนรับแขกเหรื่อด้วยการดวลเหล้าจากไห ชาวลาวทั่วไปจะใช้คำเรียกว่าดูดอุ แต่ชาวผู้ไทยจะเรียกว่าชนช้าง เป็นต้น และอีกตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ บทเพลงหรือบทกวีของชาวผู้ไทยที่มีแนวทางฉันทลักษณ์และทำนองเป็นของตนเอง แต่ภาษาที่ใช้ในเพลงก็อาจจะใช้ภาษาที่ไม่เฉพาะเจาะจง อาจจะเป็นภาษาผู้ไทยหรือไทยอีสานรวมๆ กันไปก็ได้


ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก     


อย่าลืม ไปเที่ยวกัน  ไม่ไปไม่รู้ว่าเมืองไทยมีที่เที่ยวอีกเยอะ






วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2555

ไปเที่ยวภาคใต้กันต่อ



แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว (ต่อ)



ภาคใต้ แดนด้ามขวานของสุวรรณภูมิ นับเป็นพื้นที่ซึ่งมีความอัศจรรย์ อันถือเป็นมนต์เสน่ห์ของการท่องเที่ยว ที่เราไม่ควรพลาดเลยทีเดียว

สระมรกตที่เขานอจู้จี้ อ.คลองท่อม จ.กระบี่




สระมรกตเป็นสระน้ำใสๆ สีเขียวอมฟ้า จากใจกลางป่า กำเนิดมาจากธารน้ำอุ่นในผืนป่าที่ราบต่ำของภาคใต้ ที่แห่งนี้ยังเป็นแหล่งสุดท้ายที่พบนกแต้วแร้วท้องดำ ซึ่งเคยสูญพันธุ์ไปนานเกือบ 100 ปี ป่าแห่งนี้เป็นป่าดิบที่ราบต่ำผืนสุดท้ายของเมืองไทย เป็นป่าดงดิบชื้น และบางส่วนเป็นป่าพรุมีน้ำท่วมขังตลอดทั้งปี


ทุ่งหญ้าซาฟารีที่เกาะพระทอง จ.พังงา









เป็นเกาะสวรรค์แห่งทุ่งหญ้าซาฟารี ที่หาชมได้ยากในเมืองไทย ทุ่งหญ้าแห่งนี้เป็นพื้นที่ราบ มองเห็นหญ้าเหลืองอร่าม ด้านตะวันตกของป่าเป็นป่าโกงกาง ส่วนด้านตะวันออกเป็นหาดทรายสีทอง ลึกเข้าไปส่วนกลางของเกาะเป็นทุ่งหญ้าและป่าเสม็ดคล้ายอยู่ในอัฟริกัน นอกจากนั้นเกาะพระทอง ยังเป็นแหล่งอาศัยของนกตะกรุมฝูงสุดท้ายในเมืองไทยด้วย

ดูฉลามวาฬที่หมู่เกาะสุรินทร์





         ใครจะเชื่อว่าฉลามวาฬ ซึ่งเป็นปลาที่ใหญ่ที่สุดและใจดีแห่งท้องมหาสมุทร จะสามารถพบได้ที่น่านน้ำของประเทศไทย ใครสนใจดำน้ำชมฉลามวาฬ เขาบอกว่า ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการดูฉลามวาฬ คือ ช่วงฤดูร้อนระหว่างเดือนธันวาคม-เมษายน จุดที่พบบ่อยที่สุดคือ กองหินริเชลิว และเกาะตาชัย ในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์

น้ำตกร้อน



อีกแห่งหนึ่งที่เป็น Unseen ซึ่งถูกรวบรวมไว้ในเล่มนี้และอยู่ในอำเภอเดียวกับสระมรกต คือ น้ำตกร้อน ที่ถือว่าเป็นอ่างอาบน้ำธรรมชาติกลางป่า ที่รองรับสายน้ำตกที่ไหลมาจากเนินเขา เรียกว่าได้อัศจรรย์ยิ่งสำหรับน้ำแร่อุ่นๆ ที่มาเพื่อสุขภาพ

นกเงือกที่ป่าฮาลา-บาลา จ.นราธิวาส


 



นกเงือกเป็นสัญลักษณ์และดัชนีชี้วัดความสมบูรณ์ของป่าดงดิบ จึงไม่ต้องกล่าวว่าป่าแห่งนี้มีความสมบูรณ์มากเพียงใด ป่าฮาลา-บาลา เป็นป่าดงดิบที่สมบูรณ์ผืนหนึ่งบนคาบสมุทรมลายู อาณาเขตบางส่วนติดกับประเทศมาเลเซีย เป็นที่อยู่ของสัตว์หายาก โดยเฉพาะนกเงือกมีอยู่ 9 ชนิด เช่น นกเงือกปากย่น นกชนหิน นกเงือกหัวแรด เป็นต้น

พระผุด ที่ภูเก็ต




          เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของชาวเกาะไข่มุก เป็นประธานที่กล่าวขานกันว่าไม่มีเหมือนที่ใดในโลก ชาวบ้านเขามีความเชื่อว่า ใครทุกข์ใครโศกก็กราบไหว้ ภาวนา ก็จะสัมฤทธิ์ผลตามที่ปราถนา เนื่องจากพระผุดมีเพียงครึ่งองค์ จึงดูเหมือนว่ามีองค์พระแทรกปฐพีผุดขึ้นมาให้เห็นเป็นบุญตา สามารถเข้าชมได้ที่ใกล้ที่ว่าการอำเภอถลาง ภูเก็ต

ทะเลน้อย




           แหล่งแห่งบัวและนกน้ำ จ.พัทลุง ทะเลน้อยเป็นแหล่งห้ามล่าสัตว์แห่งแรกของประเทศ มีลักษณะเป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ เชื่อมต่อกับทะเลสาบสงขลาทางทิศใต้ ทะเลน้อยเป็นบ้านของปลาน้ำจืดหลากหลายชนิด ที่มีความสำคัญกับคนริมทะเลน้อยอย่างมาก และเป็นที่รวมของนกชนิดต่างๆ กว่า 287 ชนิด จนได้รับเกียรติให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำของโลก

ภูเขาหญ้าสองสี จ.ระนอง


 

เป็นภูเขาที่เต็มไปด้วยหญ้า แต่เมื่อใดที่แสงอาทิตย์ลับขอบฟ้าภูเขาทั้งลูกจะกลายเป็นสีทอง เป็นแหล่งพักผ่อนของคนระนองที่สำคัญแห่งหนึ่ง ระนอง เป็นเมืองฝนแปดแดดสี่ จึงเป็นจุดที่ได้รับน้ำฝนมากที่สุดของประเทศ มีความสมบูรณ์หลายแห่ง แต่โชคดีที่ ททท.ไม่ยกให้จังหวัดแห่งนี้เป็น Unseen อีกเรื่องหนึ่ง คือ เป็นจังหวัดของไทยที่มีคนพม่าอาศัยอยู่มากที่สุดในประเทศ

ถ้ำลอดเกาะพนัก จ.พังงา


       อยู่ในอ่าวพังงา ที่ประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่มากมายกว่าร้อยเกาะ และมีรูปร่างแปลกตา สำหรับถ้ำลอดเกาะพนักนั้น เป็นถ้ำทะเลที่เกิดจากแรงกัดเซาะของคลื่น ทะลุทะลวงจนเป็นโพร่งให้คนรุ่นปัจจุบันเห็นถึงแรงสร้างสรรค์ของธรรมชาติ

กุ้ยหลินเมืองไทย จ.สุราษฎร์ธานี



เขาสกตั้งอยู่ใน 3 อำเภอของสุราษฎร์ธานี เป็นส่วนหนึ่งของป่าดิบชื้นที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นเขาหินปูนสลับซับซ้อน เต็มไปด้วยหุบลึก ร่องลำธาร ถ้ำ และน้ำตก และมีพรรณไม้หายากระดับโลกหลายชนิดปรากฏอยู่ที่นี่ เมื่อมีการสร้างเขื่อนกั้นลำน้ำ ทำให้น้ำเอ่อขึ้นท่วมป่าจำนวนมาก ทำให้ภูเขารูปร่างแปลกๆ กลายเป็นเกาะตั้งตระหง่านน่าชมยิ่ง เหมือนกับกุ้ยหลินเมืองมังกร แต่จะมีใครรู้เบื้องหลังความงามบ้าง ว่าต้องแลกมากับชีวิตสัตว์ป่าและพืชพันธุ์จำนวนมหาศาลเพียงใด

เที่ยวไปกินไป

สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวภาคกลาง
ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน)

         
        หัวหิน เป็นเมืองตากอากาศเก่าแก่และคลาสสิค ได้รับความนิยมมานาน เป็นหนึ่งในเมืองตากอากาศชายทะเลแรกๆ ของเมืองไทย ความสวยงามของหัวหินเริ่มเป็นที่รู้จักครั้งแรกในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อครั้งพระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายเฮนรี กิตตินส์ เลขานุการกรมการรถไฟและ กรมหลวงดำรงราชานุภาพ เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย สำรวจเพื่อเตรียมก่อสร้างทางรถไฟสายใต้ ซึ่งได้เสนอรายงานถึงความสวยงามของหาดทรายชายทะเลหัวหิน ว่าเหมาะที่จะสร้างเป็นเมืองตากอากาศพักผ่อนชายทะเล ภายหลังเมื่อเส้นทางรถไฟแล้วเสร็จ หัวหินจึงเป็นเมืองตากอากาศที่ได้รับความนิยมอย่างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มบุคคลสังคมชั้นสูง และยังคงได้รับความนิยมจวบจนปัจจุบัน 

          เสน่ห์ของหัวหิน ย่อมหนีไม่พ้นหาดหัวหินหาดที่มีน้ำทะเลสะอาดและหาดทรายละเอียด มีความลาดชันพอเหมาะสำหรับการเล่นน้ำ จุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของหาดหัวหิน คือกองหินที่กระจายตัวอยู่หน้าโรงแรมรถไฟ ความสวยงามและโรแมนติกของหาดหัวหินเป็นที่มาของนิยายดังเรื่อง "ปริศนา" ที่คนไทยค่อนประเทศคุ้นเคยดี สิ่งที่ทำให้หัวหินมีความแตกต่างจากเมืองชายทะเลอื่นๆ ก็คือบรรยากาศของเมืองยังคงกลิ่นอายของยุคสมัยในอดีตที่มีมนต์ขลังไม่เสื่อมคลาย เช่น การรักษาสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่ยังคงคุณค่าและสืบทอดประวัติศาสตร์ในอดีต เช่น สถานีรถไฟหัวหิน สถานที่ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นสถานีรถไฟที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของไทย นอกจากนี้ในบริเวณสถานียังมี พลับพลาพระมงกุฎเกล้าฯ รวมถึงป้ายสถานีหัวหิน อันเป็นเอกลักษณ์ให้นักท่องเที่ยวแวะเวียนมาถ่ายภาพไม่ได้ขาด

            ตลาดฉัตร์ไชย ตลาดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษมในตัวเมืองหัวหินสร้างในปี พ.ศ. ๒๔๖๙ ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จ-พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ในคราวเสด็จแปรพระราชฐานมาประทับ ณ วังไกลกังวลครั้งแรก มีจุดเด่นคือ หลังคาเป็นรูป ๗ โค้งอันเป็นสัญลักษณ์หมายถึงสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๗

           นอกจากนี้ ยังมีบ้านเรือนเก่าที่แม้ปัจจุบันกลายเป็นรีสอร์ท หรือเป็นร้านอาหารสุดเก๋ ริมทะเลแต่ก็ยังเหลือเค้ารอยอดีตให้ได้สัมผัส แม้แต่ร้านอาหารดั้งเดิม ของกินเจ้าเก่าแก่ ที่โด่งดังมาตั้งแต่รุ่นพ่อก็ยังคงอยู่ ผสมกลมกลืนกับความโก้หรูร่วมสมัยกับแหล่งท่องเที่ยวน่าเพลินใจหลายๆแห่ง เช่น เพลินวาน, ตลาดซิเคด้า Cicada Market, วิกหัวหิน ถูกใจคนที่มีหัวใจถวิลหาอดีตยิ่งนัก

          หัวหินยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกหลายแห่งให้ได้ลองสัมผัส อาทิ น้ำตกป่าละอู น้ำตกเล็กๆ แต่ร่มรื่น และบางฤดูมีผีเสื้อมากมายให้ชม, หรือกราบสักการะรูปปั้นหลวงพ่อทวดขนาดใหญ่ ที่วัดห้วยมงคล ศูนย์รวมแรงศรัทธาจากมหาชนทั่วสารทิศ หากต้องการชมทิวทัศน์อันสวยงามของหัวหินมุมสูง ก็ชมได้จากจุดชมวิวเขาหิน เหล็ก ไฟ และวัดเขาตะเกียบ เป็นต้น

           การเดินทาง ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 185 กม. สามารถเดินทางจากกรุงเทพฯ ได้ 2 เส้นทางคือ ถนนพระรามสอง (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 35หรือ ตามถนนเพชรเกษม (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4) จากกรุงเทพฯ มีรถตู้ปรับอากาศ รถบัสปรับอากาศ และรถไฟให้บริการ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 1672 หรือ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ 032-513-885 ได้ทุกวัน






วัดพระศรีรัตนศาสดาราม



กรุงเทพมหานคร มหานครแห่งความยิ่งใหญ่ มหานครแห่งความรัก ความหวัง และการสรรค์สร้าง มหานครที่มีร่องรอยของประวิติศาสตร์อันงดงาม เป็นดินแดนแห่งพุทธศาสนาที่เต็มเปี่ยมด้วยแรงศรัทธา เป็นที่ที่จะหาความสุขได้หลากหลายจากอาหารเลิศรส ที่พักทันสมัย แหล่งช็อปปิ้งที่ละลานตา และสถานบันเทิงที่พรั่งพร้อมความทันสมัยไม่น้อยหน้าที่ใดในโลก จึงไม่น่าแปลกใจ ที่นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกลงความเห็นว่า กรุงเทพมหานครคือสถานที่ที่น่าท่องเที่ยวที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า วัดพระแก้ว วัดที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2325 เป็นวัดในพระบรมมหาราชวัง เช่นเดียวกับวัดพระศรีสรรเพชญ์ ซึ่งเป็นวัดในพระราชวังหลวงในสมัยอยุธยา และมีพระราชประสงค์ให้วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต
ปัจจุบันในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาเยี่ยมชมความงดงามของงานสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมของช่างสิบหมู่แห่งกรุงรัตนโกสินทร์จำนวนมาก

ตลาดน้ำยามเย็นอัมพวา


สมุทรสงคราม จังหวัดที่มีขนาดเล็กที่สุดในประเทศ เป็นเมืองที่มีความสำคัญยิ่งในด้านประวัติศาสตร์ เนื่องด้วยเป็นเมืองพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย มีแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ โดยเฉพาะแม่น้ำคลองทำให้เกิดวิถีชีวิตของชาวบ้านที่มีความผูกผันกับสายน้ำและคงเอกลักษณ์แห่งวัฒนธรรมไว้อย่างเหนี่ยวแน่น นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยสวนผลไม้ให้นักท่องเที่ยวเลือกชิมสดๆ นานาชนิด ด้วยมนต์เสน่ห์แห่งวิถีชีวิตดั้งเดิม จึงทำให้สมุทรสงครามมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนไม่ขาดสาย


ตลาดน้ำยามเย็นอัมพวา สำหรับใครที่ได้มาเยือนสมุทรสงครามต้องไม่พลาดมาตลาดน้ำอัมพวา ตลาดน้ำยามเย็นแห่งเดียวในประเทศ ที่รื้อฟื้นบรรยากาศการค้าขายทางน้ำให้คึกคักตลอดเรือนแถวไม้ริมน้ำสองฝั่งคลอง นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือตามหาหิ่งห้อยใต้ต้นลำพู แล้วกลับมาพักผ่อนในบ้านพักหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบติดริมน้ำและแบบบ้านสวน ยามเช้าใส่บาตรดื่มด่ำไปกับวิถีชีวิตผู้คนริมสายน้ำแม่กลอง (เปิดวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์)

อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา


จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตลอด 417 ปีแห่งการเป็นราชธานีของไทย อยุธยา ได้สั่งสมความเจริญรุ่งเรืองทางวัฒนธรรมของชนชาติไทยไว้มากมาย จนองค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก อยุธยาเป็นเมืองอู่ข้าว อู่น้ำ มีแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นสายเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชีวิตและก่อเกิดเป็นสายน้ำแห่งอารยธรรมที่ไหลผ่านอดีตกาลนำความภาคภูมิใจสู่ลูกหลานไทยในปัจจุบัน

อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา บนเนื้อที่กว่า 3,000 ไร่ของเกาะเมืองอยุธยานั้น ซุกซ่อนเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าอัศจรรย์ใจไว้มากมาย ประกอบด้วยโบราณสถานสำคัญหลายแห่ง นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเที่ยวได้หลายวิธีทั้งการนั่งรถราง, นั่งช้าง หรือจะเลือกชมยามค่ำคืนที่มีการจัด Mini Light @ Sound ก็ได้


ประจวบคีรีขันธ์

สถานีรถไฟหัวหิน Landmark ที่ถ่ายรูปขึ้นเว็บไซต์มากที่สุด Hua Hin Railway Station
ป้ายสถานีรถไฟหัวหิน อำเภอหัวหิน ถูกจัดเป็น Landmark ที่ถ่ายรูปโพสต์ขึ้นเว็บไซต์มากที่สุด เป็นสถานีรถไฟ ชั้น 2 ของทางรถไฟสายใต้ นับจากปี 2454 ป้ายสถานีรถไฟหัวหิน ตั้งมา 90 ปี ทางด้านอาคารสถาปัตยกรรมได้รับยกย่องเป็นอาคารอนุรักษ์ อาคารสถานีรถไฟ ต้องไม่พลาดเที่ยวชม Cicada Market ตลาดนัดเปิดเสื่อ เปิดใจ เปิดไอเดีย แหล่งช้อปปิ้งสุดชิลล์ กลางสวนสวยและเสียงจั๊กจั่น

ซาฟารีเมืองไทยใหม่ล่าสุด เปิดให้ชมฟรี Kui Buri National Park
ตื่นตา ตื่นใจกับการเฝ้าชมฝูงช้างป่าและกระทิง ออกหากินทุกเย็น ณ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี กิ่งอำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายนของทุกปี ณ จุดชมเหยี่ยวเขาเรดาห์ อำเภอบางสะพานน้อย จะมีเหยี่ยวอพยพหนีหนาวบินผ่านให้ชมนับแสนตัว ซึ่ง ณ จุดนี้สามารถชมเหยี่ยวได้ในมุม 360 องศา

มหัศจรรย์ เลข 5 และ เลข 9 ก่อเกิดเจดีย์แห่งมงคล Phra Mahathart Chedi Phakdiprakart
พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ ริมหาดบ้านกรูด พระมหาธาตุเจดีย์องค์นี้สร้างขึ้นเนื่องในวโรกาส ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงครองราชย์สิริราชสมบัติครบ 50 ปี ใช้เลข 5 และ เลข 9 เป็นแนวคิดในการออกแบบ ร่วมค้นหาสูตรแห่งการคิดคำนวณที่มหัศจรรย์ใจยิ่ง






อาหารแนะนำ

           กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่อุดมไปด้วยอาหารการกินจากทุกภูมิภาคของประเทศ รวมไปถึงอาหารของชาติต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งหารับประทานได้ทั่วไปในห้างสรรพสินค้าและย่านอาหารต่างๆ   ย่านอาหารที่ขึ้นชื่อที่สุดของเมือง คือย่านถนนเยาวราช ที่มีทั้งอาหารจีนและอาหารไทยให้เลือกรับประทานมากมายตลอดทั้งถนน เปิดขายทั้งตอนกลางวันและกลางคืน โดยในตอนกลางวันเป็นร้านอาหารประเภทภัตตาคารจีน ส่วนตอนกลางคืนมีรถเข็นขายอาหารสารพัดอย่าง เปิดขายกันตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงดึก
สำหรับผู้ที่ชอบบรรยากาศการกินแบบคึกคัก มีอาหารให้เลือกหลากหลายในที่เดียวกัน แนะนำย่านตลาดสามย่าน ท่าพระจันทร์ ท่าช้าง ตลาดวังหลัง บางลำพู อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สะพานควาย ตลาด อตก. และตลาดโต้รุ่งต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วเมือง นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยาอีกหลายแห่ง ที่ตกแต่งร้านได้สวยงามบรรยากาศดี เหมาะสำหรับรับประทานอาหารเย็นแบบสบายๆ และผ่อนคลาย รวมไปถึงร้านอาหารที่เน้นบรรยากาศอื่นๆ เช่น ร้านบนตึกสูงเห็นวิวเมือง และร้านในโรงแรมต่างๆ เป็นต้น




ก๋วยเตี๋ยวร้านอ้วนจ๋า (พระนครศรีอยุธยา)

       ร้านนี้เฉพาะผู้ชื่นชอบก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ด้วยฝีมือสูตรน้ำซุปถ่ายทอดกันมากว่า 50 ปีแล้ว ทำให้หอมกลิ่นเครื่องเทศ สมุนไพรเฉพาะตัว ลูกชิ้นเนื้อกรอบอร่อยหากินที่ไหนคงยากเพราะลูกชิ้นทำเอง ลองชิมเนื้อเปื่อย เนื้อตุ๋นที่เจ้าของสูตรหวงนักหวงหนาไม่เคยบอกใครเพียงแต่กระซิบว่ามีเทคนิคการหมักจนเรียกว่าอร่อยขั้นเทพ ใครไม่ลองจะเสียใจที่ร้านมีเพียง ๕ โต๊ะไว้บริการ เปิดตั้งแต่เวลา 0๘.00-๑๖.00น. ร้านอยู่่บริเวณถนนอู่่ทอง ตรงข้้ามหน้าสถานีตำรวจตรวจคนเข้าเมือง

สมุทรสาคร

 อาหารการกินในจังหวัดสมุทรสาครมีให้เลือกมากมาย แต่ที่คนส่วนใหญ่มักจะนึงเป็นอันดับแรกเมื่อมาถึงสมุทรสงครามเห็นจะเป็น "ปลาทูแม่กลอง" ที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดปลาทู มีเอกลักษณ์ตรง "หน้างอคอหัก" มีรสชาติอร่อยเป็นอันดับต้นของเมืองไทย ใครได้ชิมเป็นติดใจทุกรายไป  ยิ่งนำมาทอดให้เหลืองกำลังดี ทานข้าบข้าวสวยร้อนๆ เหยาะน้ำพริกกะปิลงไปสักหน่อยแล้วล่ะก็  ใครจะมาลากไปไหนตอนนั้นก็ไม่มีทาง
    "หอยหลอด" เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก หอยหลอดผัดฉ่า คือเมนูแนะนำที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง มีให้สั่งได้ทั่วไปตามร้านอาหารในแถบดอนหอยหลอด แหล่งจับหอยหลอดขึ้นชื่อของสมุทรสาคร รสชาติเผ็ดร้อนของผัดฉ่า มันช่างเข้ากันดีกับหอยหลอดสดๆ รสชาติเยี่ยม จนอาจต้องสั่งเป็นจานที่สอง
    สมุทรสาครมีลำใยเป็นผลไม้ขึ้นชื่อ  มีหรือสมุทรสงครามที่อยู่ติดกันจะยอมได้  แม่กลองเองก็มี "ลิ้นจี่พันธ์ค่อม" ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของรสชาติที่โดดเด่น หวานอมฝาด มีกลิ่นหอม เนื้อหนา กรอบ ไม่แฉะ  จนได้ชื่อว่าเป็นราชินีแห่งลิ้นจี่เมืองแม่กลอง


ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก   http://www.tiewpakklang.com/index.php